สมัยที่เกมตู้ยังนิยมกันอยู่ หนึ่งในเกมที่เราจะได้เห็นกันบ่อยๆเลยคือเกม Metal Slug เกมที่เราจะได้เลือกตัวละครเป็นทหารออกไปตะลุยด่านทำภารกิจทำลายล้างพวกศัตรู เกมพัฒนาโดย SNK จ้าวเดียวกับเกมซีรี่ย์ The King of Fighters เกมลงให้กับเกมตู้อาเขตและเครื่อง PS1 และได้ทำภาคต่อออกมาอีกหลายภาค
จุดเด่นที่ผมชอบมากและรู้สึกว่าแตกต่างจากเกมยุคเดียวกันคือ การยิงและการเคลื่อนไหวในกราฟฟิคแบบการ์ตูนทำออกมาได้ดีมาก ดงห่ากระสุนและการระเบิดตู้มต้ามให้ความรู้สึกถึงการทำลายล้างแบบถล่มทลายได้เป็นอย่างดี ฉากที่สามารถทำลายได้ช่วยเพิ่มความมันให้กับตัวเกมขึ้นไปอีก ถือเป็นความรู้สึกมันๆที่เราจะหาได้ใน Metal Slug
ถ้าเล่นเกม Metal Slug กับเพื่อนจะสนุกมาก แต่ก็ต้องอาศัยทีมเวิร์คช่วยกันในการผ่านด่าน ถ้ากระโดดไม่รอกันก็มีสิทธิ์ตายได้ โดยเฉพาะในด่านที่ต้องอาศัยการกระโดดไม่ให้ตกลงไปข้างล่าง การสื่อสารกันตลอดจึงสำคัญมากสำหรับทีมเวิร์ค
เนื้อเรื่องใน Metal Slug บอกเล่าเรื่องราวของโลกแห่งสงครามที่ทหาร สองกลุ่มกำลังห้ำหั่นกันคือกองทัพทหารและพวกกบฏ ต่อสู้แย่งชิงอำนาจเพื่อไปอยู่จุดสูงสุดของโลก เราจะได้เลือกเล่นเป็นทหารสองคนที่บุกตะลุยเข้าไปสถานที่วิจัยอาวุธลับสุดยอด และชิงของที่ถูกขโมยกลับคืนมา
พล็อตเนื้อเรื่องของเกมไม่สำคัญเท่าระบบเกมเพลย์ที่ให้เราทำลายได้เกือบทุกสิ่งอย่างเมามัน มีเก็บอัพเกรดเปลี่ยนปืนจากการเก็บตัวอักษรพิมพ์ใหญ่ตามด่าน ที่ไม่ต่างจากเกม Contra เลย ปืนกล ปืนจรวด ปืนใหญ่ ที่มีเอฟเฟคทำลายไม่เหมือนใครและใช้งานตามสถานการณ์ที่ต่างกัน
ทุกด่านเราจะเจอรถถังที่ขโมยได้ กระโดดจั๊มเข้าไปเพื่อใช้งาน เกราะของรถถังจะป้องกันเราจากการโจมตีได้ทุกชนิด แต่ก็ต้องระวังเหมือนกัน เพราะถ้ารับความสามารถสักพักมันก็ถึงขีดจำกัดและระเบิดทำลายตัวเอง เราต้องกระโดดหนีก่อนมันจะระเบิดเท่านั้น
จริงๆแล้วใช้รถถังก็มีข้อเสียอยู่บ้างเหมือนกัน เรื่องการกระโดดที่ดูจะไม่ค่อยคล่องแคล่วเท่าไร ทำให้บางครั้งหลบการโจมตีลำบาก แต่ถึงอย่างนั้นรถถังก็ยังมีการโจมตีรอบทิศและมีระบบยิงปืนใหญ่เป็นจุดที่สร้างความเสียหายให้บอสได้มาก เราสามารถทำคามิกาเซ่ก็ได้ โดยสละรถทิ้งเพื่อสร้างความเสียได้มากในบริเวณกว้าง ใช้ได้ดีตอนรถถังใกล้พังถือว่าคุ้มค่าที่สุด
ถึงจะผ่านมาเนิ่มนาน แต่เกม Metal Slug ยังถือเป็นเกมแอคชั่น 2D จาก Neo Geo ที่ยอดเยี่ยมที่สุดเท่าที่เคยมีมา เป็นเกมเก่าที่สนุกถึงแม้จะเล่นคนเดียวหรือเล่น Co-op กับเพื่อนก็ตาม แข่งขันกันเองเพื่อทำคะแนนกันก็สนุกไม่น้อย
สมัยก่อนใครที่เล่นเกมตู้อาเขตและสามารถจบเกมได้ด้วยเงิน 5 บาทเพียงเหรียญเดียวถือว่าเป็นเซียนเลยล่ะ ซึ่งถ้าเพื่อนๆคิดถึงเกมนี้ ทาง Steam ได้มัดรวมชุดทุกภาคออกมาขายอยู่ในราคาไม่แพง ถือเป็นเกมเก่าที่ควรค่าแก่การสะสมและนำกลับมาเล่นอีกเกม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น